7 พฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง
ลดหย่อนภาษีได้

พอก้าวเข้าวัยทำงาน หลายคนมุ่งหน้าเพื่อที่จะทำงานเพื่อแสวงหารายได้ จนละเลยสิ่งสำคัญอย่างสุขภาพ ต่อให้หาเงินได้มากแค่ไหน แต่ถ้าสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง ต้องเข้าออกโรงพยาบาลบ่อยครั้ง เงินที่หามาก็จะหมดไปกับการรักษาพยาบาลอย่างแน่นอน ซึ่งหลายคนมีพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรง บทความนี้จะมานำเสนอเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงโรคร้ายแรงว่าจะมีพฤติกรรมใดบ้าง

1. อดอาหารเช้า

เชื่อได้เลยว่าวัยทำงานหลายคนมักพบเจอคือ ความเร่งรีบในยามเช้าจนทำให้ลืมทานอาหารเช้า ยิ่งนานวันเข้าอาจเกิดผลกระทบกับร่างกาย ทั้งขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่งผลให้อ่อนเพลีย ผมร่วง ผิวหนังแห้ง รวมถึงส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง นอกจากนี้ยังสามารถเป็นกรดไหลย้อนหรือโรคกระเพาะอาหารอักเสบได้ด้วย แย่ไปกว่านั้นเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ อาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ สามารถเกิดโรคสมองเสื่อมได้ นอกจากนี้การอดอาหารติดต่อกันเป็นระยะเวลานานก็ยังเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานอีกด้วย

2. ทานอาหารไม่ถูกหลัก

หากเลือกทานอาหารที่ไม่ถูกหลักหรือตามใจปากมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ในระยะยาว ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคกระเพาะอาหารอักเสบ รวมถึงโรคร้ายอย่างมะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งในช่องปาก มะเร็งตับ และมะเร็งกระเพาะอาหาร ดังนั้นการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ถึงแม้บางทีอาจจะไม่อร่อยถูกปาก แต่อาหารเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคดังกล่าวได้

สนใจ ประกันโรคร้ายแรง คลิก

3. นั่งทำงานอยู่หน้าจอนานเกินไป

หนึ่งในปัญหาของพนักงานออฟฟิศที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ การนั่งทำงานหน้าจอในท่าเดิมนานๆ ล้วนเสี่ยงให้เกิดปัญหาของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก กล้ามเนื้อเกร็ง เส้นเอ็นและข้อต่ออักเสบ นำไปสู่ออฟฟิศซินโดรม รวมถึงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เนื่องจากการนั่งนานๆ จนทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลในเลือดได้อย่างเต็มที่ แถมยังมีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ เนื่องจากการอั้นการทำธุระหนักสะสมเป็นเวลานาน

4. กลั้นปัสสาวะ

ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำมาก ถึงแม้ว่าจะงานยุ่งแค่ไหน ก็ต้องเข้าห้องน้ำทันที เพราะถ้าอั้นไว้นานๆ นั่นอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้และลดความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อหูรูดที่กระเพาะปัสสาวะ เกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ท่อปัสสาวะตีบตัน ที่สำคัญเสี่ยงต่อเป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะอีกด้วย

5. อยู่กลางแจ้งที่มีแดดแรง

แสงอาทิตย์ให้ทั้งประโยชน์และโทษในคราวเดียวกัน ซึ่งการอยู่กลางแจ้งที่มีแดดแรงอาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพได้ ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคผิวหนัง รวมถึงเซลล์ผิวหนังถูกทำลาย จนนำไปสู่การกระตุ้นเซลล์เนื้อร้ายซึ่งทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง

6. ไม่ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายน้อยหรือไม่เพียงพอสามารถทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อโรคเส้นเลือดหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะอ่อนเพลียและอาการประสาทเสื่อม และโรคอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งการออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพที่ดี พร้อมทั้งยังช่วยสร้างความสมดุลทั้งร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ถ้าละเลยการออกกำลังกาย จนกลายเป็นโรคอ้วน นั่นส่งผลให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง ได้แก่ มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม(ในวัยหมดประจำเดือน) มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งไต มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งตับอ่อน มะเร็งรังไข่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น

7. นอนหลับไม่เพียงพอ

การนอนหลับไม่เพียงอาจเสี่ยงต่อการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน ทั้งเสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตัน โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง รวมถึงอาจทำให้เกิดอาการเครียด ซึมเศร้าและที่ร้ายแรงไปกว่านั้นสามารถเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

โรคร้ายต่างๆ อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด หากละเลยการดูแลรักษาสุขภาพ โรคภัยต่างๆ ก็จะเข้ามาหาแบบไม่ทันตั้งตัว การทำประกันโรคร้ายแรง ถือเป็นแผนสำรองที่จะช่วยรองรับความเสี่ยงในยามที่เกิดการเจ็บป่วย

แบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาลด้วยประกันโรคร้ายแรง คลิก

เพราะประกันโรคร้ายแรงจะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลและชดเชยในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ช่วยให้ทั้งตัวคุณเองและคนรอบข้างคลายกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ตามมา ก่อนทำประกันโรคร้ายควรศึกษาหาแผนที่ใช้ ครอบคลุมทุกความต้องการและเหมาะกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เป็นประโยชน์สูงสุด