สรุปให้แล้ว ซื้อประกันชีวิตแบบไหน
ลดหย่อนภาษีได้

เดินทางเข้ามาสู่ครึ่งปีหลังและอีกไม่กี่เดือนก็จะสิ้นปีแล้ว มีเรื่องภาษีเข้ามาให้จัดการกันถ้วนหน้า หลายคนคงเริ่มมีการคำนวณภาษีของตนเองที่ต้องจ่าย และมองหาลู่ทางในการลดหย่อนภาษี ซึ่งบางคนอาจจะมีภาระต้องใช้จ่ายมาก ก็นำส่วนนั้นมาเพื่อลดหย่อนภาษีได้ รวมถึงการทำประกันชีวิตก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่นิยมในการช่วยลดหย่อนภาษีเช่นเดียวกัน ซึ่งมาดูกันว่าประกันชีวิตรูปแบบใดบ้างที่สามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้

ทำไมประกันชีวิตถึงสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

การลดหย่อนภาษีด้วยการทำประกันชีวิตนั้นมาจากนโยบายที่รัฐบาลสนับสนุนให้ประชาชนมีความมั่นคงในพื้นฐานชีวิต รวมถึงช่วยให้ประชาชนวางแผนการเงินในระยะยาว ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่ใช้เพื่อส่งเสริมการเตรียมการเงินในระยะยาวคือการสนับสนุนการลงทุนในประกันชีวิต โดยรัฐบาลได้ให้ผู้ที่ถือประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้ นั่นส่งผลให้ผู้ที่ทำประกันชีวิตมีส่วนแบ่งของรายได้เพิ่มขึ้น ที่สามารถใช้กับการเตรียมวางแผนการเงินในอนาคต

ประกันชีวิตแบบไหนลดหย่อนภาษีได้

ประกันชีวิตที่สามารถลดหย่อนภาษีจะต้องเป็นประกันชีวิตที่ทำต้องคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป โดยประกันชีวิตที่สามารถนำเบี้ยมาลดหย่อนภาษีได้ก็มี 2 ประเภท ได้แก่

1. ประกันชีวิตแบบทั่วไป

สามารถให้การลดหย่อนภาษีได้สูงสุดตามค่าเบี้ยประกันชีวิตตามมูลค่าเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท

1.1 ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life)

ประกันชีวิตที่คุ้มครองตลอดชีพ มีเบี้ยประกันคงที่ตลอดอายุของกรมธรรม์ โดยจะมีระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันประมาณ 10 - 20 ปี และในส่วนของเบี้ยประกันจะถูกสะสมเป็นกองทุนหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าคุ้มครองชีวิตแล้ว เพื่อได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย รวมถึงเป็นเงินมรดกในกรณีที่ผู้ถือกรมธรรม์เสียชีวิต

1.2 ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Insurance)

เป็นประกันที่มีระยะเวลากำหนดในกรมธรรม์ เช่น 10 ปี, 20 ปี, หรือ 30 ปี โดยกรมธรรม์จะคุ้มครองในระยะเวลาที่กำหนด ถ้าผู้เอาประกันเสียชีวิตในระหว่างนี้ บริษัทประกันจะนำส่งเงินแก่ผู้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ระบุใน
กรมธรรม์

ทำประกันชีวิตเพื่อลดหย่อนภาษี คลิก

1.3 ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment)

ประกันชีวิตที่ผสมผสานระหว่างการคุ้มครองชีวิตและการออมเงินไว้ในกรมธรรม์เดียวกัน โดยประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะคุ้มครองชีวิตของผู้เอาประกันในกรณีเสียชีวิต โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินส่งผู้รับผลประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์ นอกจากการคุ้มครองชีวิตแล้วยังเน้นการออมเงินเพื่อสะสมทรัพย์ในอนาคต โดยมีระยะเวลาที่กำหนดในกรมธรรม์ เช่น 10 ปี, 15 ปี, หรือ 20 ปี ผู้เอาประกันจะต้องชำระเบี้ยประกันในรูปแบบเป็นรายปี และเมื่อกรมธรรม์สิ้นสุดอายุ ผู้เอาประกันจะได้รับเงินสะสมคืนมา

2. ประกันชีวิตแบบบำนาญ

ประกันชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองในช่วงชีวิตหลังเกษียณอายุ โดยจะเป็นการสะสมเงินบำนาญ เมื่อถึงเวลาเกษียณอายุที่กำหนดในกรมธรรม์ ผู้เอาประกันจะได้รับเงินบำนาญตามวิธีที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ เช่น เป็นรายเดือนหรือเป็นรายปี การรับเงินบำนาญสามารถมีตามระยะเวลาที่กำหนดหรือเป็นตลอดชีวิตของผู้เอาประกัน เช่น เมื่อผู้เอาประกันอายุ 60 ปี - 80 ปี หรือมากกว่านั้น โดยประกันชีวิตแบบบำนาญสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

แผนประกันชีวิต DIY จากดีชัวรันส์
เบี้ยประกัน
ลดหย่อนภาษีได้

ซึ่งวันนี้ได้มีแผนประกันชีวิต DIY จากดีชัวรันส์ มาแนะนำ เป็นประกันชีวิตที่สามารถเลือกความคุ้มครองเองได้ดั่งใจ ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ สามารถเลือกความคุ้มครองได้ถึง 3 ความคุ้มครอง โดย เลือกระยะเวลาที่ใช่ จะคุ้มครองการเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับการชดเชยเป็นเงินก้อน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินที่จะเกิดขึ้น ถัดมา เลือกแผนเสริมชดเชยรายได้ ซึ่งจะได้รับเงินชดเชยรายวันเมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 365 วันต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง และ เลือกแผนเสริมคุ้มครอง 10 โรคร้าย เมื่อตรวจพบโรคร้ายแรงที่คุ้มครอง จะได้รับการชดเชยเป็นเงินก้อนไว้ใช้เป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งประกันชีวิตจากดีชัวรันส์สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้

สนใจ ซื้อประกันชีวิต คลิก

ลดหย่อนภาษีจากการทำประกันชีวิตถือเป็นเรื่องที่ควรรู้ เพราะในการเสียภาษีแต่ละครั้งนั้นคือจำนวนเงินที่ต้องจ่ายไปเพื่อพัฒนาประเทศ โดยเบี้ยประกันชีวิตที่จ่ายไปนั้นก็ต้องครอบคลุมทั้งการคุ้มครองชีวิต รองรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล รวมถึงต้องสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นก่อนจะซื้อประกันชีวิตควรพิจารณาและเปรียบเทียบความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจทำประกัน ให้ ดีชัวรันส์ เป็นหนึ่งในตัวเลือกในการทำประกันชีวิต เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่พึงพอใจ
ในสไตล์ของคุณเอง